Tuesday, May 01, 2007

วิชาเรียนตัวสุดท้ายในชีวิต ป.โท

ก็เรียนจนครบสองปีแล้ว
เวลาก็เหมือนผ่านไปเร็วมาก
แต่ยังรู้สึกเสียดายและเสียใจอยู่นิด ๆ
วิชาตัวสุดท้ายที่เรียน (Inter Fin.) นั้น
เราได้เกรดแค่ A- (ไม่ได้เกรดที่ตั้งใจไว้แต่แรก)
แต่ก็รู้สึกว่าทำเต็มที่แล้ว และอีกอย่างที่สำคัญ
คือ เกรดเฉลี่ยรวมทุกภาคจะ ได้แค่ 3.49
ซึ่งความจริงเราอยากได้ 3.50
(คงต้องทำใจไป)

ตอนนี้ มีแผนอยู่อย่างเดียว คือ
ทำ Thesis ให้จบภายในเทอมนี้
คงต้องทำอะไรอีกหลายอย่างแน่ ๆ
ส่วนเรื่องอนาคตการงาน เอาไว้คิดทีหลังละกัน
สู้โว้ย......

Saturday, March 10, 2007

วันเกิดในปีที่ 25 ของกอล์ฟ

ครบรอบวันที่ 7 มีนาคมอีกครั้งหนึ่ง
เป็นวันเกิดของเราและบอล (ฝาแฝด)
วันนี้ ฉลองวันเกิดตัวเองด้วยการไปดู
หนังเรื่อง music and lyrics
กับเพื่อนฟาร์มและซี แต่ก่อนดูหนัง
กุ๊กมากินข้าวเย็นด้วยกัน ความจริงแล้วจะดู
หนังเรื่องนี้ตั้งแต่วันอังคารแล้ว แต่ก็ไม่ได้ดู
(แอบเซ็งเล็กน้อย) เรื่องนี้ ต้องถามเหตุผลจากซี
ทำให้ต้องไปดูหนังถึง Espanas แถวรัชดา
รู้สึกเปิดหูเปิดตามาก ๆ ไม่เคยมาแถวนี้เลย
โรงหนังค่อนข้างหรูมาก แต่แปลก ไม่ค่อยมีคนเท่าไหร่
สงสัยจะเป็นวันปกติน่ะ

ตอนเช้าวันนี้ มีน้องปุ๋มแอบมา surprise
ซื้อเค้กมาให้กิน ต้องขอบคุณน้องปุ๋มมาก ๆ

ความจริงแล้ว วันเกิดปีนี้ มีความสุขมาก ๆ
เสียอย่างเดียวที่ไม่ได้รับโทรศัพท์จากแม่
(โทรมาตอนดูหนังอยู่น่ะ) พอโทรกลับไป
ก็ยังไม่ได้คุย จนเมื่อวาน (วันสอบเสร็จน่ะ)
ก็โทรไปหาแม่ เพื่อให้แม่ happy birth day
ย้อนหลังน่ะ

สำหรับปีนี้ ขอพรกับตัวเองสามอย่าง
แต่คงบอกไม่ได้หรอกนะ อิอิ

Friday, February 23, 2007

จากสยาม-สะพานพุทธ-เยาวราช

ในที่สุด ก็ได้อัฟบล็อคตัวเองสักที
เมื่อวันเสาร์กอ่น ได้มีโอกาสไปเดินเล่น
ที่สยามและสะพานพุทธ เพื่อซื้อของขวัญวันแต่งงานให้เพื่อน
ที่เรียนด้วยกันสมัย ม.ปลาย ตอนแรกก็ดันด้นไปที่สยามก่อน
แต่เดินไปเดินมา ไม่เจอของที่ชอบเลย ส่วนของที่อยากซื้อก็แพงมาก ๆ
จนในที่สุด ก็ตัดสินใจไปที่สะพานพุทธ แต่ไม่ได้ไปคนเดียวหรอก
ไปกับเพื่อนหนึ่งคน (แป้ง) ซึ่งจะไปซื้อของขวัญวันแต่งงานให้เพื่อนเหมือนกัน

พอไปถึงสะพานพุทธ เพื่อนก็ตรงไปที่ร้านรับวาดรูปล้อน่ะ
(เพราะเพื่อนเราอยากให้รูปล้อเป็นของขวัญวันแต่งงาน)
คนวาดรูปร้านนี้ จะคอยกวนและแซวลูกค้าตลอดเวลา แต่ก็ขำ ๆ ดี
พอให้รูปถ่ายกับร้านนี้ เราก็เริ่มหาของขวัญที่เราต้องการจนทั่วสะพานพุทธ
ตอนแรกเกือบถอดใจ เพราะไม่เห็นมีของขวัญให้ซื้อเลย
แต่สุดท้าย ก็เจอนาฬิกาอันหนึ่ง ถูกใจมาก เพราะสวยและยังถูกด้วย

พอได้ของขวัญวันแต่งงานเพื่อนเรียบร้อย เราก็กลับไปที่ร้านวาดรูป
แต่พี่เค้าก็ยังทำไม่เสร็จ เราจึงชวนแป้งไปเดินปากคลองตลาด
เป็นครั้งแรกที่เลยที่ได้มาเดินปากคลองตลาดตอนกลางคืน
และยังรู้จักชื่อดอกไม้มากขึ้น ดอกไม้บางดอกเคยเห็น แต่เราไม่เคยจำชื่อได้สักที
อาทิ ดอกผีเสื้อ ดอกคลัทเตอร์ (ไม่รู้เขียนถูกหรือป่าว)

พอเดินจนทั่วปากคลองตลาด เราก็มานั่งรอที่ร้านอีกพักใหญ่กว่าจะได้รูปมา
มองนาฬิกาอีกที ก็ถือว่าดึกมากเลย และคืนนั้น กว่าจะถึงหอก็เกือบเที่ยงคืน
แต่ว่ารู้สึกเหนื่อยมาก ๆ เพราะเดินเยอะไปหน่อย ทั้งตอนที่อยู่ที่สะพานพุทธ
และตอนเดินไปขึ้นรถเมล์น่ะ

พอวันอาทิตย์ (วันตรุษจีน) ตอนเย็น เราก็ต้องไปเดินที่เยาวราช
แต่ครั้งนี้ ไปเดินแค่คนเดียวน่ะ ไปเยาวราชครั้งนี้เพื่อไปหาซื้อเสื้อตรุษจีนให้พ่อ
เป็นเสื้อที่พระเทพทรงออกลายเสื้อให้ (เป็นรูปหมู) เดินจนทั่วเยาวราชทั้งสองฝั่ง
เดินหาเสื้อตัวนี้เกือบชั่วโมงในที่สุดก็เจอเสื้อตัวนี้จนได้
แทบจะบ้าตาย เพราะร้านที่ขายเสื้อตัวนี้ อยู่ในซอยที่คนไม่ค่อยเดินกัน
(ขัดกับหลักการตลาดอย่างมาก)

ลืมเล่าไป ก่อนจะเดินไปหาซื้อเสื้อ เราเดินเข้าไปที่ถนนมังกร
แล้วเจอศาลเจ้าแห่งหนึ่ง ชื่อ เล่งบ๊วยเอี้ย เค้าบอกว่า ศาลเจ้านี้อาจจะเป็น
ศาลเจ้าที่เก่าที่สุดในประเทศไทย เพราะมีมาตั้งแต่สมัยอยุธยาตอนกลาง
เราจึงได้เข้าไปไหว้ศาลเจ้าเพื่อขอพรน่ะ
ส่วนขอพรอะไรไปบ้าง ไม่ขอบอกละกันนะ

Friday, November 17, 2006

เกรดออกแล้วโว้ย....

เทอมก่อนหน้านี้
ค่อยข้างไม่แน่ใจเรื่องเกรดเลย
และทำใจไว้นานแล้วตั้งแต่สอบเสร็จ
และแล้ววันนี้ เกรดก็ออกจนได้
ได้แค่ B+ ทั้งสองวิชาเลย
วิชาแรก คือ Reserach method
อีกตัว คือ Public policy toward industry

วิชาแรกก็เฉย ๆ นะ
เพราะว่าค่อยข้างไม่แน่นอนมาก ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของ
อาจารย์มากกว่า ว่างานเราดีแค่ไหนน่ะ

แต่ตัวที่สองนั้น มีสอบแค่ปลายภาค
ข้อสอบยากมาก และก่อนจะสอบนั้น
มีเรื่องซวยมาก ๆ
คือ โทรศัพท์มือถือหายก่อนเข้าห้องสอบ
หนึ่งชัวโมง สมาธิฟุ้งกระจายไปเลย

สุดท้าย เอาเถอะ ยังเหลือเรียนอีกหนึ่งตัวสุดท้าย
ตั้งใจจะเอาเอให้ได้
(สัญญากับตัวเองอย่างแน่นอน
ทั้ง ๆที่รู้ว่าวิชานี้ยากมาก ๆ) จบ...

Friday, September 08, 2006

My notebook...

เราพึงซื้อโน้ตบุ๊คใหม่มาเมื่อสองอาทิตย์ก่อน
แต่ซื้อหล้งจากออกจากงานผู้ช่วยวิจัยน่ะ
ราคาแค่ 36200 บาท ซึ่งถือว่าคุ้มมาก
เพราะได้ intel dual core
HD 80 MB. and RAM 768 น่ะ
เพื่อน ๆ ถามเหมือนกันว่าจะซื้อมาทำไม
ยังไง เราคิดว่า เราก็ต้องซื้อมาทำงานวิทยานิพนธ์อยู่ดีแหละ
เพราะว่าห้องคอมคณะเดี๋ยวนี้ ยังกับตลาดเลย
เสียงดังมาก ..เลยคิดว่า ถ้าไม่มีคอมแล้วจะจบมั้ยเนี่ย
เนื่องจากเป็นคนที่ชอบทำงานในที่เงียบ ๆ มาก

อย่างไรก็ตาม ซื้อโน้ตบุ๊คมาสองอาทิตย์
รู้สึกว่ายังใช้ทำงานไม่ค่อยคุ้มเลย
เพราะว่าเพื่อน ๆ จะมาขอเล่น winning กัน
ซึ่งความจริง เราก็อยากเล่นด้วย
ก็เลยเผลอตัวเล่นไปด้วย
ส่วนใหญ่ เราเล่นก็แพ้ตลอด
เสมอก็ถือว่าเก่งแล้ว

สุดท้าย น่าสงสารแจนมาก ๆ
เพราะว่าราคาโน้ตบุ๊คของมัน ราคาตกมาเยอะมาก
กล่าวได้ว่า
His notebook's price decrease dramatically.
At first, he brougth it about 48000 ฿ but now
its price is only 23000 ฿.
It is so pity.

สุดท้ายจริง ๆ โน้ตบุ๊กน่าจะเป็นที่ระบายความเครียด
ของเพื่อน ๆ มากกว่าสิ่งของที่เราใช้ทำงาน
เพราะว่าเราไม่ชอบทำงานตอนกลางวันสักเท่าไหร่

Monday, September 04, 2006

Seasons Change...


วันศุกร์ก่อน ไปดูหนังเรื่อง seasons change มาแล้ว
ไปดูกับเพื่อน ๆ เด็กเพื่อนตั้งแปดคน
(ไม่น่าเชื่อว่าช่วงนี้ รวมตัวกันได้บ่อยน่ะ)
แต่รู้สึกตัวเองลาวมาก ๆ ที่คิดว่า
Grand EGV อยู่ที่มาบุญครอง
ยังมั่นใจขนาดบอกเพื่อนไปด้วย
หน้าแตกมาก ๆ

สำหรับเรื่องนี้ เราว่ายังรู้สึกเฉย ๆ รู้สึกว่าเรื่องเพื่อนสนิท
ทำไว้ดีกว่าเยอะเลย เรื่องนี้น่าจะสรุปง่าย ๆ ว่า


"มนุษย์มักไม่ค่อยรู้ตัวว่ากำลังรักใครอีกคนอยู่
แถมเข้าใจไปว่าตัวเองรักคนอื่น...แต่ความรัก
มันก็ดีแบบนี้ มันไม่บอกเราตรง ๆ (เพราะเราก็คงไม่เชื่อ)
แต่มันให้ช่วงเวลาที่ต้องจากกันไป ส่งเสียงบอกเรา"

ยังไงก็ตาม ยังเป็นหนังที่ดูได้อยู่
มีเสียงหัวเราะอยู่ตลอด และถ่ายถอดความรู้สึกของ
พ่อกับลูก และอาจารย์กับศิษย์ได้ดีมาก
ถ้าไม่คิดอะไรมากก็ไปดูได้

ป.ล. จะพยายามอัฟ blog ให้บ่อยขึ้น
เพราะเราออกจากงานผู้ช่วยวิจัยแล้ว
น่าจะมีเวลาว่างมากขึ้น

Monday, April 24, 2006

About my comprehensive scores...

หลังจากผ่านการสอบที่แสนยาวนาน
ก็ถึงเวลาที่เราจะต้องมาลุ้นระทึกเกรด
และผลของวิชา comprehensive
แต่ส่วนใหญ่ ทุกคนก็ไม่ค่อยเครียดเรื่องเกรดกันสักเท่าไหร่
ยกเว้นบางคนที่เกรดเฉลี่ยยังไม่ถึง 3.00

comprehensive ก็คือ วิชาประมวลความรู้ความเข้าใจ
เป็นการสอบวิชาหลัก ซึ่งพวกเราต้องสอบสองวิชา คือ
1)Microeconomics by A.Jackkie
2)Macroeconomics by A.Ariya
และจะไม่มีเกรด แต่มีเพียงผ่านและไม่ผ่าน
ซึ่งหากไม่ผ่าน จะมีโอกาสสอบอีกรอบสำหรับคนที่มีเกรดเฉลี่ย 3.00 ขึ้นไป
มันจึงชี้ชะตาต่อการเรียนที่นี้อย่างมาก

เล่าย้อนหลังไปหน่อยว่า ตอนที่สอบสองวิชานี้
เรารู้สึกทำได้แค่วิชา micro เท่านั้น แต่ macro นั้น
เรามั่วกระจายมาก....

สุดท้าย ผลประกาศมาว่า เราผ่านทั้งสองวิชา
เย้ เย้ เย้ ....แต่เราไม่ค่อยประทับใจกับการผ่าน micro เลย
เพราะเราไปคุยกับ แจ็คกี้ (ชื่อที่เด็ก ๆ ตั้งให้กับอาจารย์)เค้าบอกว่า
คุณผ่านแบบน่าตกใจมาก ถ้าลองเขียนเป็นภาษาอังกฤษ ก็คงได้ว่า
You can surpricingly pass microeconomics.
ต่อจากนั้น อาจารย์ก็เอาคะแนนให้ดู แต่ละข้อ คะแนนเต็ม 20
ซึ่งเราได้คะแนนในแต่ละข้อ คือ 8,2,10,16
เกรณฑ์การผ่านปีนี้นั้น จะต้องได้คะแนนเกินครึ่งสองข้อ
ดีนะเนี่ย ที่ข้อสามเราได้ 10 คะแนนพอดี
ถ้าได้น้อยกว่านี้ เศร้าแน่ ๆ .....
สำหรับ macroeconomics นั้น เพื่อนๆ ทุกคนจะผ่านเกือบหมด
ยกเว้น วุฒิ
สุดท้ายสุด เราคิดว่าคงมีเพื่อนต้องออกจากโปรแกรมอีกแล้ว
น่าเศร้ามาก เพราะที่นี่ก็ไม่ได้มีคนเรียนเยอะแล้ว แถมยังเรียนยากด้วยแหละ